ล้างรถอย่างไรให้ถูกวิธี

สำหรับคนมีรถยนต์นั้น งานที่ต้องทำประจำเพื่อถนอมรถของเราให้ใช้ได้นานๆ และไม่อายใครก็คือ การทำความสะอาดนั่นเองครับ

สำหรับคนมีรถยนต์นั้น งานที่ต้องทำประจำเพื่อถนอมรถของเราให้ใช้ได้นานๆ และไม่อายใครก็คือ การทำความสะอาดนั่นเองครับ ซึ่งการทำความสะอาดก็คือการล้างรถยนต์ของเราให้สะอาดและดูใหม่เอี่ยมอยู่ตลอดนั่นเองครับ แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งมีรถยนต์ก็อาจนึกไม่ถึงว่า การล้างรถที่ถูกต้องนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์แค่ทำความสะอาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถช่วยในการเพิ่มสมรรถนะให้รถยนต์ของเราได้อีกด้วยครับ ดังนั้นการล้างรถให้ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการซ่อมและการใช้งานได้ และยังมีส่วนในการทำให้รถยนต์ของเราสามารถวิ่งได้เร็วขึ้นด้วยครับ ดังนั้นวันนี้อีซูซุพระนครจึงสนับสนุนให้ทุกคนล้างรถยนต์คันโปรดของเราให้ถูกวิธีด้วยเทคนิคการล้างรถอย่างไรให้ถูกวิธีมาฝากกันครับ ไปดูกันว่าการจะล้างรถให้สะอาดและถูกต้องนั้นทำอย่างไรกันบ้าง ล้างคราบสกปรกด้วยการฉีดน้ำ  เริ่มต้นด้วยขั้นตอนเบื้องต้นที่หลายคนทราบกันดีก็คือการล้างคราบสกปรกออกจากรถยนต์ของเราด้วยน้ำ ซึ่งน้ำที่เราจะนำมาฉีดล้างคราบสกปรกนั้นจะต้องเป็นน้ำเย็นอุณหภูมิปกติเท่านั้นครับ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นจนถึงร้อนนะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อกำจัดพวกฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถยนต์ออกเสียก่อนครับ เริ่มต้นล้างรถจากบนลงล่าง สำหรับการล้างรถยนต์นั้น สิ่งที่เราควรต้องรู้ก็คือไม่ควรล้างจากล่างขึ้นบน เราควรเริ่มล้างจากหลังคารถยนต์ จากนั้นจึงค่อยๆ ไล่ลงมาด้านข้างตัวรถ ตามด้วยส่วนของกระจกและตามขอบต่างๆ ครับ ซึ่งในการล้างกระจกรถยนต์นั้นไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำล้างรถ ทั้งนี้ก็เพราะภายในตัวฟองน้ำนั้นอาจมีพวกเศษหินหรือวัสดุแข็งที่อาจทำให้กระจกรถยนต์คันโปรดของเราเกิดรอยขีดข่วนได้นั่นเอง เราควรเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าสำลีหรืออุปกรณ์ในการล้างโดยเฉพาะ และก่อนใช้ควรสำรวจด้วยว่าผ้านั้นสะอาดปราศจากสิ่งที่จะทำลายกระจกหรือไม่ตัวน้ำยาต้องผสมกับน้ำอุ่น เมื่อผ่านขั้นตอนการล้างคราบสกปรกด้วยน้ำเปล่าแล้วนั้น ขั้นตอนต่อมาก็คือการใช้น้ำยาทำความสะอาดรถนั่นเองครับ โดยการผสมตัวน้ำยานั้น ก่อนอื่นควรอ่านขั้นตอนบนฉลากกล่องหรือขวดให้ละเอียดก่อน ซึ่งอัตราส่วนผสมของแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีเขียนแนะนำไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากน้ำยาล้างรถนั้นเข้มเกินไป เราควรผสมด้วยน้ำเปล่าที่อุณภูมิอุ่นพอเหมาะ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ตัวน้ำยาที่เข้มจนเกินไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายสีรถยนต์คันโปรดของเรานั่นเองครับ ซักผ้าหรือเปลี่ยนผ้าบ่อยๆ การใช้ผ้าในการล้างรถยนต์แต่ละส่วนของรถนั้น เราควรใช้ผ้าคนละผืนอย่างเหมาะสม เช่น ผืนหนึ่งใช้ล้างหลังคารถ ฝากระโปรงรถหน้า/หลัง ส่วนผ้าอีกผืนใช้ล้างขอบกระจกลงมาด้านล่าง ส่วนอีกผืนใช้สำหรับล้างล้อรถและส่วนที่มีความสกปรกมากๆ ไม่ควรใช้ผืนเดียวล้างทั้งคันรถ เนื่องจากรถแต่ละส่วนสกปรกไม่เท่ากัน ดังนั้นการดูแลและถนอมรถยนต์ก็ต้องต่างกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นอีกวิธีที่จะช่วยในการถนอมรถยนต์ของเราให้ดูใหม่อยู่เสมอ อย่าปล่อยให้น้ำยาแห้งคารถ ข้อนี้สำคัญครับ หลายคนมักจะชอบปล่อยน้ำยาล้างรถทิ้งไว้จนแห้งคารถยนต์! หากใครที่ทำเช่นนี้อยู่แนะนำให้เปลี่ยนวิธีการล้างเช่นนี้ใหม่นะครับ เพราะขณะที่เรากำลังล้างรถนั้น การปล่อยให้น้ำยาทิ้งไว้แล้วไปล้างส่วนอื่นของรถเพื่อที่จะรอล้างด้วยน้ำสะอาดหลังเสร็จสิ้นการล้างด้วยน้ำยานั้น อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์คันโปรดของเราเกิดคราบน้ำ และทำให้ฝุ่นมาเกาะคราบน้ำนี้อีกครั้ง นั่นก็เท่ากับว่ารถยนต์ของเราจะสกปรกอีกครั้ง และยังอาจทำให้รถยนต์ของเราเกิดรอยจากการที่เราต้องไปเช็ดคราบสกปรกนี้ที่อาจมีเศษดิน หรือหินชิ้นเล็กๆ ติดอยู่อีกครั้งนั่นเอง

วิธีเช็ดรถ

หลังจากการล้างรถยนต์ด้วยน้ำยาและน้ำสะอาดแล้วนั้น ขั้นตอนสำคัญอีกอย่างก็คือการเช็ดรถให้แห้งนั่นเอง ซึ่งเราควรเลือกผ้าเนื้อนุ่มหรือผ้าชามัวร์คุณภาพดี และการเช็ดให้เช็ดจากบนลงล่าง นอกจากนี้ส่วนที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษคือกระจกและขอบประตูรถยนต์ ทั้งด้านนอกด้านใน รวมถึงด้านในกระโปรงหลัง ด้านในฝาถังน้ำมัน ต้องเช็ดให้แห้งสนิทอย่าให้เหลือความชื้นทิ้งไว้ และถ้าหากรถยนต์ของเราเป็นล้อแม็กก็ควรเช็ดให้แห้งด้วยเช่นกันเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อแม็กเกิดคราบน้ำจนเป็นสาเหตุของการเกิดสนิมนั่นเอง

ข้อควรหลีกเลี่ยงในการล้างรถ

ข้อแรกที่ต้องรู้กันเลยก็คือการล้างรถยนต์นั้น เราไม่ควรล้างบ่อยเกินไป และควรเลือกน้ำยาล้างรถที่ดีมีคุณภาพไม่ทำลายสีรถ นอกจากนี้ก็ควรล้างรถในที่ร่มเพื่อควบคุมเวลาในการล้างและเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง หากล้างกลางแดด แสงแดดจะทำให้รถแห้งเร็วจนบางทีเกิดเป็นคราบ

นอกจากนี้เรายังควรล้างรถในตอนเช้า เพราะหลังจากนั้นยังมีเวลาทำให้รถแห้ง ซึ่งถ้าล้างตอนเย็นหรือค่ำ หากมีบางจุดที่เช็ดไม่แห้ง อาจทำให้รถเป็นสนิมในจุดนั้นได้ นอกจากนี้เราก็ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถ เพราะอาจเป็นเหตุทำให้รถยนต์เป็นรอยได้ เนื่องจากไม่ได้กำจัดฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกที่ติดตัวรถออกก่อน เมื่อนำผ้าไปแนบและเช็ดก็อาจเป็นรอยขีดข่วนรถยนต์ของเราได้ และข้อสำคัญที่หลายคนมักเข้าใจผิดก็คือการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาอื่นๆ ที่เกิดฟองในการล้างรถ สิ่งนี้ห้ามเด็ดขาดครับ ควรใช้น้ำยาล้างรถเท่านั้น เพราะนอกเหนือจากนี้ความแรงของน้ำยาอาจทำลายสีของรถยนต์คันโปรดของเราได้

มาถึงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอีกข้อหนึ่งซึ่งมักเกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็คือ การใช้แปรงหรือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นรถ ในเวลาที่ไม่มีเวลาว่างล้างแบบเต็มรูปแบบ ข้อนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวอาจลากฝุ่นหรือเม็ดทรายที่เกาะอยู่กับรถครูดจนรถเป็นรอยได้ครับ

และหากใครที่กำลังมองหาอีซูซุไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม สามารถติดต่อได้ที่อีซูซุพระนครทั้ง 12 สาขาใดก็ได้ใกล้บ้านดังนี้ครับ

1) อีซูซุพระนคร สาขารามอินทรา
โทร : 02-946-4000
พิกัด : https://goo.gl/maps/7YmD4sJ2QPU2

2) อีซูซุพระนคร สาขาบางปู
โทร : 02-323-2000
พิกัด : https://goo.gl/maps/6edkz7ceHLn

3) อีซูซุพระนคร สาขาเทพารักษ์
โทร : 02-312-1234
พิกัด : https://goo.gl/maps/kp2eUKjMz6aaN5Sd8

4) อีซูซุพระนคร สาขาบางซื่อ
โทร : 02-556-0999 ต่อ 201
พิกัด :  https://goo.gl/maps/YxA6gffhAsrqFn617

5) อีซูซุพระนคร สาขาพหลโยธิน
โทร : 02-271-1777
พิกัด : https://goo.gl/maps/kJpaE5bAdowmbkY26

6) อีซูซุพระนคร สาขาบางขัน
โทร : 02-516-2222
พิกัด : https://goo.gl/maps/yGf49w5SCvPqpb9V8

7) อีซูซุพระนคร สาขาตลาดไท
โทร : 02-520-4555
พิกัด : https://goo.gl/maps/Jn1karcXqPUCpy9W9

8) อีซูซุพระนคร สาขาคลองหลวง
โทร : 02-902-2000
พิกัด : https://goo.gl/maps/gPHnNV9jNQ9vCQhQ9

9) อีซูซุพระนคร สาขาบางแค
โทร : 02-454-4004
พิกัด : https://goo.gl/maps/wBKudfpXjramz7E57

10) อีซูซุพระนคร สาขามีนบุรี
โทร : 02-517-0999
พิกัด : https://goo.gl/maps/JpTnwKAXFDGVaLPL8

11) อีซูซุพระนคร สาขาปทุมธานี
โทร : 02-581-4562
พิกัด : https://goo.gl/maps/M6xwbVyT2pKZV2qK6

12) อีซูซุพระนคร สาขาเพชรเกษม108
โทร : 02-445-4999
พิกัด : https://goo.gl/maps/xxzDEG64m2xxo1ZQ7

ดูรุ่นรถอีซูซุ คลิก
ดูโปรโมชันล่าสุด
คลิก

 

…………………………………………………..

ที่มา : Smart Cost, Auto Mthai, Thai Engin

 

     

ล้างรถอย่างไรให้ถูกวิธีอีซูซุอีซูซุพระนคร
Comments (0)
Add Comment